1. ถ้าคุณมี Port อยู่แล้ว แต่กลัวว่า หุ้นที่ถือไว้ จะตก โดย ยังไม่อยากขายหุ้นทิ้งไป แต่ไม่รู้จะทำไงดี คุณสามารถใช้ Futures ในการประกันความเสี่ยง โดยทำ Short Position ใน Futures ไว้ หากคุณขาดทุนในตลาดหลักทรัพย์ แต่คุณก็จะได้กำไรจากตลาด Futures มาชดเชยในส่วนที่ขาดทุนซึ่งเป็นการถัวความเสี่ยง หรือประกันความเสี่ยงของ Port คุณได้

2. ถ้าไม่ได้ ซื้อขายในหลักทรัพย์ ช่วงนี้ เพราะยังไม่มั่นใจในทิศทางของราคาหุ้น ก็สามารถเข้ามาเก็งกำไร ในตลาด Futures ได้ ไม่ว่า ราคาในตลาดหลักทรัพย์ ต่อไปจะขึ้นหรือ ลงก็ตาม โดยทำการเปิด Long Position (ซื้อ) ในตลาด Futures ถ้าคาดว่า ราคาหลักทรัพย์ จะขึ้นในอนาคต หรือ เปิด Short Position (ขาย) ถ้าคาดว่า ราคาหลักทรัพย์ จะลงในอนาคต

3. ในตลาด Futures สามารถ ขายก่อนได้ หากคาดว่าราคาจะลง โดยไม่ต้องกังวลว่า จะไม่มีหุ้นมาส่งมอบจริงๆ เมื่อถึงกำหนดหมดอายุของสัญญา เพราะใช้หลักการชำระราคาในวันที่ครบกำหนดของสัญญา Futures

4. ตลาด Futures จะใช้เงินลงทุนที่น้อยกว่า ตลาดจริงมาก เพราะใช้หลักการวางเงินประกัน หรือ ที่เรียกว่า Margin โดยส่วนใหญ่ จะกำหนด Margin ไว้ประมาณไม่เกิน 10 % ของมูลค่าสัญญาเพราะฉะนั้นเมื่อได้กำไร เมื่อเปรียบเทียบกับเงินที่ลงทุนแล้วก็จะได้อัตราที่สูงกว่า การลงทุนในตลาดจริงด้วย

เช่น ถ้าคุณลงทุนในตลาดจริงด้วยเงิน 1 ล้านบาท เมื่อหุ้นขึ้น 10 % คุณก็จะได้กำไร 1 แสนบาท คิดเป็น 10 % ของเงินที่ลงทุนด้วย แต่ตลาด Futures ถ้าคุณลงทุนในสัญญาที่มีมูลค่า 1 ล้านบาท ด้วยการวางเงิน Margin เพียง 1 แสนบาท เมื่อหุ้นขึ้น 10 % คุณก็จะได้กำไร 1 แสนบาทด้วย ซึ่งคิดเป็น 10 % ของมูลค่าสัญญา แต่คิดเป็น กำไร 100 % ของเงินที่คุณลงทุน แต่ในทางกลับกัน ถ้าคุณมองราคาผิดทาง ก็อาจทำให้มีผลขาดทุนได้เหมือนกัน

5. ด้วยหลักการวาง Margin ที่ใช้เงินลงทุนน้อยกว่า การลงทุนในตลาดจริงแล้ว การลงทุนในตลาด Futures ยังทำให้ใช้เงินลงทุนน้อย แต่เสมือนได้ลงทุนในหลักทรัพย์ ทั้ง 50 ตัวด้วย แต่ไม่มีการจ่ายเงินปันผลให้